อะไรคือ Battle Royale และมันมีที่มาที่ไปอย่างไร

เกมแนว Battle Royale ที่กำลังโด่งดังจากเกม PubG ที่ใครหลาย ๆ คนรู้จัก แต่ใครจะล่วงรู้ถึงที่มาของแนวคิดเกมที่เป็นที่นิยมอย่างมากในขณะนี้ อะไรคือจุดเด่นที่มัดใจเหล่าผู้เล่นที่กำลังเล่นสนุกกับสมรภูมิขนาดสี่เหลี่ยมผืนผ้ากับผู้ร่วมเล่นที่แย่งชิงความเป็นที่หนึ่งกัน แนวคิดหลักสำคัญที่ห้ำหั่นกันระหว่างผู้เล่นด้วยกันเองกลายเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของเกมเหล่านี้ จนเกิดคำถามขึ้นมาว่าใครคือผู้ริเริ่มเกมแนว Battle Royale ต้นฉบับที่กำลังจะกลายเป็นตำนานในอีกไม่ช้า

3 เหตุการณ์ใหญ่ที่นำมาสู่เกมแนว Battle Royale

1.นิยายและหนัง

แรกเริ่มแล้ว Battle Royale คือชื่อของนิยายของคุณ Koushun Takami ที่เขียนขึ้นในปี 1999 พื้นเรื่องว่าด้วยเรื่องของการเข่นฆ่ากันของเด็ก ม.3 ที่ถูกจัดขึ้นโดยรัฐบาล โดยกลไกของมันก็คล้าย ๆ กับเกมที่เราเล่นกันในสมัยนี้ คือมีการบีบวงให้แคบลง และต้องต่อสู้กันเพื่อหาผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียว และแล้วก็ได้กลายเป็นภาพยนตร์ถึง 2 ภาคด้วยกัน ซึ่งตัวหนังถือว่าโหดจนต้องจัดเรทห้ามเด็กดูกันเลยทีเดียว

2.Hunger Games กับ Minecraft

ใครจะไปคิดว่าสองสิ่งนี้จะผนวกรวมเข้ากันได้ ด้วยโทนหนังของ Hunger Games ที่ดูดุดันและเข้มข้น กับ Minecraft ที่มีสีสันสดใส เต็มไปด้วยก้อนสี่เหลี่ยมโพลิกอน แต่แล้วเมื่อหนังออกฉายในปี 2012 ก็มีแฟนเกมผนวกกับแฟนหนังสร้าง Mod ที่ชื่อว่า Survival Games ขึ้นมา โดยหลักการต่าง ๆ ก็มีเช่นเดียวกัน คือการต่อสู้เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตคนสุดท้าย เพื่อที่จะเป็นผู้ชนะของเกมไปในที่สุด

3.Brendan Greene

หรืออีกชื่อก็คือ PlayerUnknown ทีนี้หลายคนก็คงจะพอคุ้นกันบ้างแล้ว เขาผู้นี้เป็นหนึ่งในผู้ผลิต Mod ดังของเกม Arma 2 โดยที่เราเรียกมันว่า DayZ ที่จะเน้นเรื่องการบีบวงของซอมบี้ และการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เล่นคนอื่น ๆ ภายในเกม จนกระทั่งเวลาผ่านไป โปรเจกนี้ของ PlayerUnknown ก็ได้ฉายแสงสู่สายตาชาวโลกในปี 2017 นี้เอง ก่อเกิดให้หลาย ๆ ความเปลี่ยนแปลงตามมา ไม่ว่าจะเป็นแนวเกมแบบใหม่ที่ถูกบัญญัติลงในประวัติศาสตร์เกมเมอร์ หรือจะเป็นการปรับเปลี่ยนของเกมหลายเกมที่ดึงระบบนี้เข้าไปใช้เสริมเกมตัวเต็มของตัวเอง เพื่อเป็นทางเลือกให้กับเหล่าผู้เล่นที่จะได้สัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างกันออกไป

การแผ่กิ่งก้านของ Battle Royale

เรียกได้เต็มปากว่าเกมแนว Battle Royale กลายเป็นตำนานเกมฉบับใหม่ไปเสียแล้ว เพราะเห็นได้ชัดว่าในช่วงสมัยหนึ่งของประวัติศาสตร์ ซึ่งก็คือสมัยนี้ ไม่ว่าเกมอะไรก็จะหยอดส่วนผสมของแนว Battle Royale ลงไปเสมอ กลายเป็นว่าเกมแนว Battle Royale มีหลากหลายสีสัน หลายแง่มุม หลายแนว ไม่ใช่แค่สักแต่การโดดร่มแล้วไล่ยิงกันจนจบเกมเสมอไป แต่ยังกลายเป็นเกมแนว RPG หรือ MOBA กระทั่งแนววางระเบิดก็มีมาแล้ว ทั้งนี้ก็ต้องให้เครดิตผู้ริเริ่มจริง ๆ ที่ทำให้วงการเกมได้ก้าวหน้าไปอีกขั้น